หน้าแรก > คอลัมน์กงสุลใหญ่ > สารจากกงสุลใหญ่
ฝ่าลมฝนไม่หวาดหวั่น เปิดหน้าใหม่ของความสัมพันธ์ไทย-จีน
2020-10-01 17:27

วันนี้เป็นวันครบรอบ 71 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และตรงกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ซึ่งเป็นเทศกาลดั้งเดิมของจีน ในเทศกาลที่เต็มไปด้วยความสุขของครอบครัวที่อยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันนี้ ข้าพเจ้าขอส่งความสุขและความปรารถนาอันดีงามไปยังผองเพื่อนทุกวงการในภาคเหนือของไทย

ในช่วง 71 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประชาชนชาวจีนได้เริ่มต้นอย่างยากลำบากบนพื้นฐานของความยากจนและล้าหลัง โดยคลำก้อนหินข้ามคลอง จนในที่สุดสามารถพัฒนาอย่างก้าวกระโดดบนเส้นทางแห่งสังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของจีน อีกทั้งประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและมีความมั่นคงทางสังคมในระยะยาว ซึ่งเป็นเรื่อง "มหัศจรรย์" ที่พบได้น้อยมากในประวัติศาสตร์โลก ชนชาติจีนก้าวกระโดดจากการยืนด้วยลำแข้งของตนเอง สู่การสร้างความมั่งคั่ง และกลายเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ประเทศจีนในปัจจุบันครองตำแหน่งประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอย่างมั่นคงและต่อเนื่องหลายปี อีกทั้งมีอัตราการสร้างคุณูปการต่อการเติบโตเศรษฐกิจโลกคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ซึ่งกลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักและเครื่องเสริมสร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก จีนได้สร้างระบบโครงสร้างอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดในโลก และเป็นประเทศเดียวที่มีอุตสาหกรรมครบทุกประเภทตามการจำแนกประเภทอุตสาหกรรมของสหประชาชาติ เป็นห่วงโซ่อุตสาหกรรมของโลกที่ขาดไม่ได้ เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกที่ไม่เกิดขึ้นมาก่อนในรอบศตวรรษ ประเทศจีนได้เสนอภูมิปัญญาจีนและแบบแผนของจีนอย่างจริงจัง ข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ได้รับการตอบรับอย่างดีจากหลาย ๆ ประเทศ ภายใต้การชี้นำแนวความคิดทางการทูตของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ประเทศจีนจะยึดมั่นในเส้นทางแห่งการพัฒนาที่สันติ ผลักดันการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่และส่งเสริมการสร้างประชาคมแห่งโชคชะตาร่วมกันของมวลมนุษย์ เราจะเป็นผู้สร้างสันติภาพของโลก ผู้สร้างคุณูปการต่อการพัฒนาของโลก และเป็นผู้พิทักษ์ระเบียบระหว่างประเทศอีกด้วย

เมื่อต้นปี 2020 ประเทศจีนได้เผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง ภายใต้การนำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงและรัฐบาลจีน และด้วยความพยายามร่วมกันของประชาชนทั้งประเทศ ตลอดจนการช่วยเหลือและสนับสนุนจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้ประเทศจีนประสบความสำเร็จเชิงยุทธศาสตร์อย่างมากในการต่อสู้กับโรคระบาด ซึ่งได้ผ่านการทดสอบอย่างยากลำบากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ จนกลายเป็นประเทศแรกที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอยู่ในแดนบวก แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันล้นเปี่ยมในการฟื้นตัวและพละกำลังที่มีอยู่อย่างมหาศาลของประเทศจีน เมื่อเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโควิด-19 จีนได้ยืนหยัดร่วมมือและต่อสู้เคียงข้างกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยได้เปิดเผยข้อมูลโรคระบาดอย่างทันท่วงที มีการให้ความรู้ด้านการค้นหาพันธุกรรมของโควิด-19 อีกทั้งแบ่งปันแนวทางการควบคุม ป้องกันและรักษาโรค และยังได้ให้ความช่วยเหลือประชาคมโลกอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งจีนได้ปฏิบัติจริงเพื่อส่งเสริมและผลักดันความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการสร้างประชาคมแห่งโชคชะตาร่วมของมวลมนุษยชาติ

ปัจจุบัน รัฐบาลและประชาชนจีนกำลังเพิ่มความพยายามเพื่อชดเชยความสูญเสียที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อบรรลุเป้าหมายในการสร้างสังคมอยู่ดีกินดีอย่างรอบด้านและการบรรลุภารกิจด้านการต่อสู้กับความยากจน ประเทศจีนพร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศไทยและสังคมโลกเพื่อผลักดันการสร้างระบบบริหารจัดการระดับโลกที่เปิดกว้างและยอมรับซึ่งกันและกัน สร้างกลไกพหุภาคีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสร้างความร่วมมือในภูมิภาคที่เป็นประโยชน์มากขึ้น อีกทั้งร่วมกันรับมือกับความท้าทายระดับโลกที่มีมากขึ้น เพื่อสร้างอนาคตของมวลมนุษยชาติที่งดงามยิ่งขึ้นอีกด้วย

จีนและไทยมีประวัติความสัมพันธ์ฉันมิตรมานานนับพันปี มิตรภาพแบบครอบครัวเดียวกัน ได้ฝังรากลึกในหัวใจของประชาชนทั้งสองประเทศ ในฐานะที่เป็นประเทศกำลังพัฒนาที่สำคัญในภูมิภาคนี้ เราทั้งสองฝ่ายมีผลประโยชน์ที่สอดคล้องกัน และมีโชคชะตาที่ผูกพันกัน ตลอด 45 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยังคงแข็งแกร่งและคึกคักมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นแบบอย่างที่อยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตรระหว่างสองประเทศซึ่งมีระบบสังคมที่ต่างกัน

พวกเราจะไม่ลืมว่าหลังเกิดโรคระบาดของโควิด-19 ในจีน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีของไทยตลอดผองเพื่อนในแวดวงต่าง ๆ ในภาคเหนือของไทยต่างก็ได้ให้กำลังใจและร่วมกันบริจาค ตามถนนหนทางในตัวเมืองเชียงใหม่เราจะเห็นป้ายที่เขียนว่า "ไทยกับจีนมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" แสดงให้เห็นถึงความเป็นครอบครัวเดียวกันระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยได้อย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ ไทยยังได้ให้ความช่วยเหลือชาวจีนที่ติดค้างอยู่ในประเทศไทยอย่างเต็มที่ทั้งการต่ออายุวีซ่าและทำการรักษาชาวจีนที่ได้รับการยืนยันว่าติดโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวจีนจากมณฑลหูเป่ยท่านหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคติดโควิด-19 และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เขาได้รับการรักษาอย่างเต็มที่และดูแลอย่างใกล้ชิดจากบุคลากรทางการแพทย์ของไทยจนหายป่วย หลังออกจากโรงพยาบาลเขารู้สึกตื้นตันใจอย่างมากและบอกเจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลใหญ่ฯว่า คนไทยช่วยเหลือเขาในยามวิกฤต และเขาจะจดจำความอบอุ่นและความซาบซึ้งใจที่ได้รับครั้งนี้ตลอดไป

ชาวจีนมีสำนวนที่กล่าวไว้ว่า "บุญคุณน้อยนิด ควรทดแทนอย่างยิ่งใหญ่" ดังนั้น เมื่อสถานการณ์โควิด19 ในประเทศไทยเริ่มรุนแรงมากขึ้น รัฐบาลและภาคส่วนต่าง ๆ ของประเทศจีนได้ร่วมกันบริจาคสิ่งของจำเป็นสำหรับการต่อสู้กับโรคระบาด ตลอดจนยารักษาโรคและวัตถุดิบในการผลิตหน้ากากอนามัย เป็นต้น ภายใต้การประสานงานของสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เมืองและมณฑลต่าง ๆ ของจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ ฉงชิ่ง ยูนนาน ไห่หนาน กุ้ยโจว เสฉวน และอื่น ๆ ที่มีความสัมพันธ์เป็นเมืองพี่เมืองน้องกับจังหวัดทางภาคเหนือของไทยต่างก็ได้มอบวัสดุอุปกรณ์สำหรับการต่อสู้กับโรคระบาดให้กับส่วนราชการ โรงพยาบาล และโรงเรียนในท้องถิ่น เป็นต้น เพื่อให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะสามารถทำได้ การสนับสนุนและร่วมมือซึ่งกันและกันระหว่างจีนและไทยในการต่อสู้กับโรคระบาดได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งไว้ว่าเมื่อเผชิญกับวิกฤต เราจะจับมือกันอย่างเหนียวแน่นและหัวใจของเราจะใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น

เมื่อมองย้อนกลับไปความสัมพันธ์จีน - ไทยที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วง 45 ปีที่ผ่านมา เรายินดีที่เห็นว่าความไว้วางใจในเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งกันและกันระหว่างทั้งสองฝ่ายมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น อีกทั้งความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของสองฝ่ายมีแนวโน้มที่ครอบคลุมรอบด้าน ร่วมมือในเชิงลึกและในระดับสูงยิ่งขึ้น ผู้นำของทั้งสองฝ่ายมีการไปมาหาสู่กันอย่างบ่อยครั้งด้วยความจริงใจ ทั้งสองฝ่ายยังสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างแน่แน่วในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลักของอีกฝ่าย ปริมาณการค้าทวิภาคีเพิ่มขึ้นจาก 24.62 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเริ่มต้นของการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตมาเป็น 91.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 เพิ่มขึ้นมากกว่า 3,700 เท่า จีนกลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทยติดต่อกัน 7 ปี และไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของจีนในกลุ่มประเทศอาเซียน ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ถึงแม้การค้าในทั่วโลกยังซบเซา แต่การค้าทวิภาคีระหว่างจีนไทยยังคงขยายตัวถึง 5.6% นักธุรกิจจีนที่ลงทะเบียนกับ BOI เพื่อลงทุนในประเทศไทยมีจำนวนทั้งสิ้น 95 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 17,460 ล้านบาท อีกทั้งโครงการก่อสร้างทางรถไฟจีน-ไทยซึ่งเป็นโครงการหลักภายใต้ความร่วมมือ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ระหว่างทั้งสองประเทศก็กำลังคืบหน้าอย่างราบรื่น

ในความร่วมมือจีน-ไทยนั้น ภาคเหนือของไทยมีบทบาทที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ในช่วงสองปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนมาเยือนไทยกว่าปีละ 10 ล้าน ซึ่งหนึ่งในสี่จะเดินทางมาภาคเหนือ สินค้าเกษตรของภาคเหนือ เช่น ลำไยและมะม่วงซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน พร้อมไปกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของโครงการจีน-ไทย ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง และความร่วมมือจีน-อาเซียน ความร่วมมือระหว่างจีนและไทยภาคเหนือมีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนในภาคเหนือของไทยได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงมากยิ่งขึ้น

เมื่อสองเดือนครึ่งที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้เดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่และเริ่มรับตำแหน่งกงสุลใหญ่จีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ การมีโอกาสได้มาปฏิบัติงานอยู่ในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรข้าพเจ้าจะทำงานและพำนักระยะยาวในภาคเหนือซึ่งเป็นดินแดนแห่งอารยธรรมอันยาวนานและมีทิวทัศน์ที่สวยงามนั้น ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกผูกพันและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ตั้งแต่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ ณ ที่แห่งนี้ ข้าพเจ้าได้ออกเยี่ยมหน่วยงานราชการระดับจังหวัดและระดับเทศบาลทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน เป็นต้น อีกทั้งได้เยี่ยมสถาบันอุดมศึกษาและสมาคมต่าง ๆ ตลอดจนพบปะกับตัวแทนสมาคมจีน อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีนและนักศึกษาจีนในประเทศไทยเป็นต้น ทุกที่ที่ได้เดินทางไปนั้น ข้าพเจ้าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ทำให้สัมผัสได้ถึงมิตรภาพที่ภาคส่วนต่าง ๆ ในภาคเหนือของไทยมีต่อประเทศจีนและความปรารถนาในการพัฒนาความร่วมมือกับประเทศจีน ซึ่งทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าภารกิจของตนเองนั้นมีความหนักหน่วงและมีเกียรติอย่างยิ่ง

เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 71 ปีของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนและครบรอบ 45 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดนิทรรศการภาพถ่ายเคลื่อนที่ในหัวข้อ "แม่น้ำลำคลองสายยาว สายสัมพันธ์จีน-ไทยยั่งยืน" ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทุกภาคส่วน หัวข้องานในครั้งนี้เป็นการอัญเชิญลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทรงเขียนไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2016 ขณะเสด็จพระราชดำเนินเยือนสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้บรรยายถึงสภาพความเป็นจริงของความสัมพันธ์จีนไทยที่มีมายาวนานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นการอวยพรให้มิตรภาพจีนไทยรุ่งเรืองและยั่งยืนตลอดไป

ข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมงานทุกคนจะปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ ภายใต้การชี้นำแนวคิดทางการทูตของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เราจะปฏิบัติตามแนวคิดการทูตจีนแบบ "เป็นมิตร จริงใจ เอื้อประโยชน์ต่อกัน และอยู่รวมกันอย่างกลมกลืน" เราจะร่วมมือเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้คนจากทุกภาคส่วน ในเขตอาณา ถือโอกาสครบรอบ 45 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทยเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ ร่วมกันผลักดันการไปมาหาสู่กันอย่างฉันท์มิตรและดำเนินความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่างประเทศจีนและภาคเหนือของไทยให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และร่วมกันเปิดหน้าใหม่ของมิตรภาพจีน - ไทย

อู๋ จื้ออู่                                           

กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่

  1 ตุลาคม 2020                                    

Suggest to a friend:   
Print